หน้าแรกไลฟ์สไตล์/สุขภาพ6 เดือนมหัศจรรย์ น้ำนมแม่ “Super...

6 เดือนมหัศจรรย์ น้ำนมแม่ “Super Food” ที่เด็กควรได้รับ

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ได้เปิดเวทีเสวนาออนไลน์ ในหัวข้อ “6 เดือนมหัศจรรย์ นมแม่ต้องห้ามพลาด ให้ทารกได้รับนมแม่ สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีส่งผลไปทั้งชีวิต” หากย้อนดูสถิติจะพบว่า แม่ชาวไทยให้ความสำคัญต่อการเลี้ยงลูกด้วย น้ำนมแม่ ยังต่ำกว่ามาตรฐาน เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในโลก

น้ำนมแม่

สาเหตุดังกล่าว มีปัจจัยหลักๆ มาจากการที่แม่ ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ภาครัฐควรผนึกกำลังเครือข่ายให้การสนับสนุนให้แม่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตนเอง โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2568 เด็กไทยมากกว่าร้อยละ 50 ต้องได้รับนมจากแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก ไม่จำเป็นต้องเสริมอาหาร หรือน้ำอื่น หลังจากพ้นวัย 6 เดือนแล้ว ค่อยปรับมาให้อาหารเสริมตามวัย แต่ยังคงต้องกินนมแม่ต่อไปอีก จนถึงอายุ 2 ปี หรือมากกว่านั้นก็ได้

มหัศจรรย์ น้ำนมแม่

ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย พญ.ศิริพร กัญชนะ ได้เผยว่า ผลการศึกษาพบข้อมูลที่น่าตกใจว่า ในปี 2562 เด็กทารกของไทย ได้รับการเลี้ยงดูด้วยน้ำนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก ลดลงจากผลการสำรวจเมื่อปี 2559 คือ จากร้อยละ 24 เหลือเพียงร้อยละ 14 และยังมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ประชาคมได้ตั้งเป้าไว้ว่าเด็กทารกแรกเกิดจนถึง 6 เดือน ต้องได้รับนมแม่ไว้สูงถึงร้อยละ 50 ด้วยสาเหตุนี้ทางมูลนิธิฯ จึงถือเอาสัปดาห์นมแม่โลก มารณรงค์ให้ทุกภาคส่วนในสังคมไทยให้ความสำคัญ และร่วมมือกันผลักดันให้เด็กไทยได้รับนมแม่ทั่วถึงทุกคน เพื่อช่วยกันวางรากฐานที่มั่งให้กับประเทศในทางอ้อม

น้ำนมแม่

สำหรับความเชื่อที่ส่งกันมารุ่นต่อรุ่นว่า “หลังกินนมแม่ต้องกินน้ำเพื่อล้างปากนั้น” เป็นความเชื่อไม่ถูกต้องในหลักการแพทย์ ซึ่งในความเป็นจริงผลวิจัยพบว่า เด็กทารกแรกเกิดจนถึงวัยอย่างน้อย 6 เดือน ควรได้รับน้ำนมแม่เพียงอย่างเดียว โดยยังไม่จำเป็นต้องให้ทานน้ำ หรืออาหารเสริมชนิดอื่น เพราะในน้ำนมแม่นั้น มีสารอาหารที่จำเป็นต่อเด็กทารกอยู่มากมาย และยังมีภูมิคุ้มกันต่างๆ ที่ส่งผ่านจากแม่มาสู่ลูก นมแม่จึงถูกจัดว่าเป็น “Super Food” ที่เด็กสามารถกินได้ โดยไม่ต้องให้น้ำ

เนื่องด้วย ในน้ำนมแม่มีน้ำอยู่ถึงร้อยละ 83 ที่เหลือก็อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่า เมื่อเทียบกับสารสังเคราะห์นับไม่ถ้วนที่ใส่ผสมลงไปในน้ำนม ประกอบกับปัจจุบันประเทศไทยมีทารกคลอดลงน้อยลงเหลือเพียงปีละ 5 แสนคนเท่านั้น ฉะนั้นจึงอยากขอให้ทุกภาคส่วนในสังคมออกมาให้ความสำคัญสนับสนุนให้แม่เลี้ยงดูลูกด้วยนมตัวเองมากขึ้น เพื่อสร้างต้นทุนสุขภาพที่ดี ให้พร้อมเติบโตขึ้นมาเป็นกำลังพลเมืองที่มีคุณภาพต่อประเทศชาติ

นอกจากนั้น รศ.พญ.สุดาทิพย์ โฆสิตะมงคล กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด และกรรมการวิชาการมูลนิธิ ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า ในความเป็นจริงแล้ว น้ำนมแม่ ยังสามารถให้ทารกกินได้ต่อเนื่องไปจนถึง 2 ปี เพราะนมแม่เป็น Super Food ถือได้ว่าคือ วัคซีนเข็มแรกและของขวัญชิ้นพิเศษที่ดีที่สุดที่แม่ได้มอบให้กับลูก

ในนมแม่ยังมีภูมิคุ้มกันช่วยให้ลูกร่างกายสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยบ่อย ลดโอกาสเกิดโรคติดต่อเรื้องรัง อาทิเช่น โรคอ้วน เบาหวาน หรือเข้าโรงพยาบาลได้น้อยกว่า เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้รับน้ำนมแม่

ซึ่งการที่จะให้เด็กทารกได้รับน้ำนมแม่อย่างเหมาะสม สร้างรากฐานพัฒนาให้เด็กไทยมีสุขภาพอนามัยที่ดี แข็งแรง มีพัฒนาการสมวัย และส่งผลดีต่อประเทศชาติในอนาคต ภาครัฐควรเร่งทำสื่อสารให้ข้อมูลทางวิชาการ พร้อมกับให้ความรู้ถึงประโยชน์ของน้ำนมแม่ แก่แม่ และครอบครัว โดยการรณรงค์เรื่องน้ำนมแม่ ควรทำอย่างต่อเนื่อง และให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้เห็นผลชัดเจน เพราะน้ำนมแม่นั้นเป็นอาหารชั้นเลิศที่ธรรมชาติสร้างขึ้นนั่นเอง

อ้างอิงข้อมูลจาก : https://workpointtoday.com/super-food

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ : ประโยชน์ของการ กินไข่ต้มลดน้ำหนัก ดีอย่างไร

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เรื่องแนะนำ